 |
ปางอุ๋ง ดินแดนสุดแสนโรแมนติก |
หลังจากคณะของเราชื่นชมความงามทะเลหมอกที่ ม่อนกิ่วลม จนเป็นเวลาค่อนข้างสายจึงออกเดินทางต่อ โดยคืนนี้ กะว่าจะไปกางเต็นท์ที่ ปางอุ๋ง "เพราะเพื่อนคนหนึ่งร่ำลือมาว่า ปางอุ๋ง เป็นที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากอยากให้มะเี่ดี่ยวได้ไป" นี้เป็นเหตุผลหนึ่งในการอยากมาเที่ยวเหนือ เลยยกเลิกแผนการที่ตอนแรกว่าจะไป ภูกระดึง
การเดินทางในวันนี้ โชเฟอร์ โต้งเซอร์วิส จัดยาว จากอุทยานแห่งชาติ แม่เมยไป แม่ฮ่องสอนทางค่อน ข้างที่จะคดเคี้ยว ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษและเป็นทางที่ ค่อนข้างจะเปลี่ยว ไม่ค่อยที่จะมีรถวิ่งสวนมา และบวกกับน้ำมันรถที่เหลือน้อย ตลอดทางที่ผ่านมาหาปั้มเติมน้ำมันไม่เจอ มีแต่หมู่บ้าน กะเหรี่ยง ( แนะนำเลยคับ ถ้าใครคิดที่จะใช้เส้นทางนี้ไปแม่ฮ่องสอน ควรที่จะเติมน้ำมันให้เต็มถังก่อน ) คณะเรา ก็นั่งเกร็งนั่งลุ้น กันไปตลอดทางทำให้ บรรยากาศในรถเงียบมาก "ดีคับตื่นเต้นดี ผมชอบ"
และในที่สุดคณะเราก็หลุดออกมาได้ หลังจากเติมน้ำมันแล้ว ก็เลยแวะตลาดในหมู่บ้านซื้อ อาหารป่าและเครื่องดื่ม เตรียมงาน ปารตี้คืนนี้ที่ ปางอุ๋ง คณะของเราเดินทางถึง หมู่บ้านรักไทยประมาณ สามทุ่ม ซึ่งก่อนที่จะขึ้นไปพักที่ ปางอุ๋ง จะต้องขอบัตรที่ ศูนย์ศิลปาชีพแม่ฮ่องสอนก่อน (แต่ปัจจุบันนี้สามารถขอบัตรได้ที่ หมู่บ้านรักไทยได้เลย) แต่คณะเราของเรามาถึงเป็นเวลาค่ำ เลยขอไม่ทัน "ทำงัยดีล่ะ" หลังจากคณะเราปรึกษากันแล้วได้ข้อสรุปคือ "เป็นไงเป็นกัน ขึ้นไปให้ถึงก่อนอย่างอื่นว่ากันทีหลัง"เรียกว่าวัดดวงล่ะคับงานนี้ คิดในใจถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าเราก็จะตือขอเข้าให้ได้ ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ยอม จิง จิง เราก็จะกางเต้นท์ ตรงป้อมของเจ้าหน้าที่ซะเลย ( เป็นการกระทำที่ไม่ดีน่ะคับไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง ) ทางขึ้น ปางอุ๋ง ชันมากและทางแคบบวกกับความมืดและมีหมอกลงจัด
ทำให้คณะของเรา ต้องลุ้นระทึกอีกแล้วล่ะคับ จะกลับก็กลับไม่ได้เพราะไม่มีที่ให้กลับรถขับ ขึ้นเขาอย่างเดียว งานนี้โชเฟอร์ เหงือตกเลยคับ ต้องใช้ สปอร์ตไลน์ ในรถเปิดส่องทางช่วยเพราะมองไม่เห็นทางข้างหน้าเลย ( แนะนำคับ ถ้าใครคิดจะไปเที่ยวก่อนขึ้น ปางอุ๋ง ควรที่จะตรวจสอบสภาพรถให้ดีก่อน และถ้าไม่ ชำนาญทางไม่ควรเดินทางขึ้นไปในเวลากลางคืนอันตรายคับ )
และแล้ว คณะของเราก็มาถึงจนได้วันนี้นักท่องเที่ยวที่มากางเต้นท์ไม่มากเท่าไร และบวกกับคำอธิบายของคณะเราเจ้าหน้าที่เลยใจอ่อนยอมให้เราเข้าไปกางเต้นท์ได้ เมื่อคณะของเราเลือกทำเลกางเต้นท์ได้แล้ว ก็จัดแจงข้นสัมภาระ เตรียมทำอาหารมื้อค่ำกัน ตอนนี้บรรยากาศที่ ปางอุ๋ง มืดมองไม่เห็นอะไรเลย มีแต่แสงจากตะเกียงสนามของเต้นท์ข้างๆ เท่านั้นที่สร้างบรรยากาศในยาม ค่ำคืน อันแสนจะหนาวเหน็บ หลังจากทานอาหารมือค่ำเสร็จแล้วคณะของเราก็ขอตัวมุดเต้นท์เข้านอนกัน เพราะเหนื่อยกับการเดินทางอันแสนจะทรหดในวันนี้.
 |
เตรียมทำอาหารเช้า ที่ปางอุ๋ง โดย กะเหรี่ยง เนอส |
 |
อาหารเช้าที่ ปางอุ๋ง ฝีมือกะเหรี่ยง เนอส แซ่บมากคับ บังฟา คอนเฟิร์ม |
 |
บรรยากาศยามเช้าที่ ปางอุ๋ง แกล้มกับ เบียร์ |
คณะของเราตื่นขึ้นมาก็แสนจะตลึงกับบรรยากาศยามเช้าที่ปางอุ๋ง สมคำร่ำลือ จิงจิง เกินกว่าที่จะเขียนเป็นตัวอักษรได้ ดูภาพกันเอาเองคับ ลักษณะพื้นที่ของปางอุ๋ง จะเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อยู่บนยอดเขาสูง ริมอ่างเก็บน้ำจะเป็นแนวสนที่ปลูกเรียงรายอย่างกลมกลืน และในยามพระอาทิตย์ขึ้น แสงจากพระอาทิตย์จะสะท้อนผืนน้ำเป็นลำแสงสีทองส่องผ่านแนวต้นสนสีเขียวขจีพร้อมกับหมอกในยามเช้า งดงามมากคับเหมือนอยู่ในดินแดน เทพนิยาย และโดยส่วนตัวผมคิดว่า ปางอุ๋ง เป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดในเมืองไทย
 |
ไอหมอกที่ลอยขึ้นจากทะเลสาบและแสงสะท้อนจากดวงอาทิตย์ | |
|
 |
แพไม้ไผ่ บริการจากชาวบ้านในหมู่บ้าน รักไทย |
 |
ถ้าใครไปเที่ยว ปางอุ๋ง จะต้องเจอกับเจ้าห่านตัวนี้ |
 |
ภาพถ่ายจากแพไม้ไผ่ในทะเลสาบ ปางอุ๋ง |
 |
ทิวสนที่ปลูกไว้อย่าง กลมกลืน ข้างทะสาบ ปางอุ๋ง |
ทิวสนที่ปลูกเรียงรายเมื่อมีลมพัดผ่านจะเกิดเสียงของ ธรรมชาติที่ไพเราะมาก คณะของเราเลยนอนฟัง เสียงของ สนต้องลม อยู่นานสองนาน จนไม่อยากที่จะเดินทางไปไหนต่อ
 |
น้องแก้ม นางแบบน้อยๆ ที่ปางอุ๋ง | | |
|